รมว.สธ.เปิดห้องถก แพทยสภา หาทางออกปมฟ้องศาลปกครอง กรณีโครงการจ่ายยา 16 อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เผยภาพรวมเห็นด้วยช่วยลดแออัดในโรงพยาบาล แต่ห่วงบางกลุ่มอาการ ไม่ผ่านการวินิจฉัยแพทย์ เสนอตั้งคณะกรรมการร่วมกันทั้งสองฝ่าย กำหนดกลุ่มอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ให้เภสัชกรในร้านขายยาคุณภาพจ่ายยาได้โดยไม่อันตราย 

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างแพทยสภา กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสภาเภสัชกรรม กรณีที่ สปสช. ขยายสิทธิการให้บริการกับประชาชน เพื่อดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ให้สามารถไปรับยามารักษาตัวเองจากร้านขายยา ซึ่งเป็นหน่วยบริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามประกาศ สปสช. เรื่อง การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขเพิ่มเติม สำหรับหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านเภสัชกรรม พ.ศ. 2567 โดยมีการกำหนดกลุ่มอาการที่สามารถมารับบริการได้ 32 กลุ่มอาการ จนเป็นที่มาของการนำไปฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เพื่อขอเพิกถอนประกาศฉบับดังกล่าว 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด ได้เชิญตัวแทนแพทยสภา เข้าพบเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและยุติข้อขัดแย้งในเรื่องดังกล่าว โดยผู้แทนแพทยสภายืนยันว่า ในภาพรวมเห็นด้วยกับการให้บริการดูแลประชาชน ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยในบางกลุ่มอาการของ สปสช. เพราะเป็นวิธีการที่มีประโยชน์ ลดความแออัดของผู้จะไปเข้ารับบริการในโรงพยาบาล และยังเป็นความสะดวกกับประชาชนอีกด้วย แต่ภายหลังจากมีประกาศ สปสช. เรื่อง การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมฯ แพทยสภาไม่เห็นด้วยกับการกำหนดให้เภสัชกร สามารถจ่ายยาให้กับผู้มาขอรับบริการเฉพาะในบางกลุ่มอาการ ซึ่งมองว่า มีความเสี่ยงและอันตรายต่อประชาชนผู้มารับบริการมากเกินไป หากมีการจ่ายยาไปโดยไม่มีการวินิจฉัยโรคโดยแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเสียก่อน ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มอาการปวดหัว ปวดท้อง หรือตกขาว 

“ผมจึงได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกันทั้งสองฝ่าย เพื่อมาพิจารณากำหนดกลุ่มอาการของความเจ็บป่วยเล็กน้อย ที่เภสัชกรในร้านขายยาคุณภาพสามารถจ่ายยาให้ได้โดยไม่เป็นอันตราย ซึ่งหากได้มีการพิจารณาและเห็นพ้องร่วมกันในประเด็นดังกล่าว ก็อาจนำไปสู่การแก้ไขประกาศของ สปสช. ที่เกี่ยวข้องต่อไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว

(อ่านเพิ่มเติม : แพทยสภา ออกแถลงการณ์ ปมฟ้องศาลปกครองโครงการจ่ายยา 16 อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย)

ขณะที่สภาเภสัชกรรม ออกจดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน

อ่านต่อ : 

สภาเภสัชกรรมออกจม.เปิดผนึก ฉบับที่1

-สภาเภสัชกรรมออกจม.เปิดผนึก ฉบับที่2